ดอยตุงเป็นแหล่งท่องเที่ยวเด่นของเชียงราย อยู่เหนือจากตัวเมืองเชียงรายประมาณ 45 กิโลเมตร ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย ลักษณะเป็นเทือกเขาสูงทอดตัวยาวอยู่ทางด้านซ้ายของเส้นทางที่มุ่งไปอำเภอแม่สาย แต่เดิมเป็นเทือกเขาหัวโล้นที่ถูกชาวเขาตัดทำลายเพื่อใช้พื้นที่ทำการเกษตร จนกระทั่งสมเด็จย่าได้เสด็จมายังดอยตุงและทรงมีพระราชดำรัสว่า ฉันจะปลูกป่าดอยตุง หลังจากนั้นในปี 2530 รัฐบาลจึงได้เริ่มจัดทำโครงการพัฒนาดอยตุงขึ้นโดยปลูกป่าคืนความสมบูรณ์กลับคืนสู่ธรรมชาติ ได้ดึงชาวเขาเข้ามาทำงานในโครงการปลูกป่าดอยตุง แต่ก่อนนั้นเส้นทางขึ้นดอยตุงเป็นเส้นทางลอยฟ้า คือเมื่อนั่งรถบนถนนดอยตุงแล้วมองลงมาก็จะเห็นวิวโล่งๆ ไม่มีต้นไม้มาบดบังทัศนียภาพ แต่ในปัจจุบันนี้ดอยตุงกลับคืนสภาพเป็นป่าที่อุดมสมบูรณ์อีกครั้งหนึ่งเมื่อนั่งรถไปตามเส้นทางขึ้นดอยตุงจะเห็นแต่ต้นไม้แน่นขนัดนั่นล้วนเป็นป่าปลูกทั้งสิ้น หลังจากโครงการปลูกป่าแล้วเสร็จจึงได้มีการสร้างพระตำหนักดอยตุง และมีโครงการอีกหลายๆ โครงการตามมาเพื่อสร้างอาชีพให้กับคนในท้องถิ่น |
จากเทือกเขาหัวโล้นกลับกลายมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่โดดเด่นที่สุดของเชียงราย แต่ละปีมีนักท่องเที่ยวขึ้นไปเที่ยวดอยตุงเป็นจำนวนมาก แหล่งท่องเที่ยวบนดอยตุงที่นักท่องเที่ยวขึ้นไปเยี่ยมชมได้แก่ สวนแม่ฟ้าหลวง พระตำหนักดอยตุง พระธาตุดอยตุง สวนรุกขชาติแม่ฟ้าหลวงดอยช้างมูบ
ไร่แม่ฟ้าหลวง หรือสวนดอยตุง เป็นสวนไม้ดอกไม้ประดับเมืองหนาวบนพื้นที่ 25 ไร่ อยู่ในแอ่งที่ราบด้านทิศเหนือของพระตำหนัก สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2534 ภายในสวนถูกตกแต่งด้วยพันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับสวยงาม ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนออกดอกตลอดปี กลางสวนมีประติมากรรมเด็กยืนต่อตัว งานประติมากรรมนี้ได้รับพระราชทานชื่อว่า " ความต่อเนื่อง "
พระตำหนักดอยตุง เป็นที่ประทับแปรพระราชฐานเพื่อทรงงานของสมเด็จย่า ปลูกแบบง่ายๆ ด้วยพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ พระตำหนักสร้างด้วยไม้ทั้งหลังโดยมีโครงเหล็กอยู่ภายใน ไม้ในการสร้างเป็นไม้ลังใส่สินค้าที่การท่าเรือฯ คลองเตย ทูลเกล้าถวายแด่สมเด็จย่า เมื่อสร้างออกมาแล้วสวยงามยิ่งนัก รูปแบบการสร้างเป็นการผสมผสานสถาปัตยกรรมล้านนากับบ้านพื้นเมืองสวิตเซอร์แลนด์ ที่เพดานห้องโถงทำเป็นเพดานดาว บริเวณด้านหลังพระตำหนักมีระเบียงยืนออกไป เมื่อยืนที่ระเบียงจะเห็นทัศนียภาพของดอยตุงที่สวยงาม บริเวณขอบระเบียงมีกระบะปลูกไม้ดอกที่มีสีสันสวยงาม พระตำหนักเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชม โดยจะต้องมีมัคคุเทศก์ของพระตำหนักเป็นผู้นำเยี่ยมชม (ขอขอบุคณ ข้อมูลจาก www.tourdoi.com)
บรรยากาศน่าเดินเล่น ชมดอกไม้มาก ๆ เลยค่ะ
น้องพิงค์อดใจไม่ไหว ยอมลงเดิน ไม่มีงอแง
ยายขอพักเอาแรงก่อนนะคะ เดินมาตั้งนานแล้ว มันเมื่อยจ้า...
ลูกสาวใครน๊อ...(และแม่ใครน๊อ)
หายเหนื่อยกันแล้วก็ต้องทำหน้าที่ไกด์นำเที่ยวต่อ แชะ แชะ แชะ ทุกคนยิ้มหน่อยค่า
วันนี้ป้าอ๋อยสบาย ลอยตัวเห็น ๆ เพราะแทบไม่ต้องอุ้มน้องพิงค์เลย ตอนนี้ป้าแอต้องรับไม้ต่อแล้วค่า
น้องพิงค์ไม่สนใจมองกล้องเลย มองอารายน๊อ...สงสัยจะมองหาผีเสื้อ แมงปอ ผึ้ง แน่ ๆ
ว้าว!!! ใครกันน่ะ ไม่รู้จักเลย สวยทั้งคู่เลยนะขอบอก โดยเฉพาะคนใส่แว่นดำ
ดูใกล้ ๆ แล้ว คลับคล้ายคลับคลา ป้าอ๋อยของน้องพิงค์นี่เอง วันนี้ จ๊าบมากนะคะ
ประติมากรรมเด็กยืนต่อตัว ที่ได้รับพระราชทานชื่อว่า "ความต่อเนื่อง"
น้องพิงค์ดีใจอะไรคะ
ดีใจที่ได้เห็นผีเสื้อ แมงปอและผึ้งค่า ได้ออกมาชื่นชมธรรมชาติแบบนี้ มันทำให้สดชื่นด้วยนะคะแม่ เราคงต้องมาเที่ยวบ่อย ๆ แล้วล่ะค่ะ
เดินชมสวนจนทั่วแล้ว จะขึ้นไปชมพระตำหนักกันต่อค่ะ
ยายกับป้าอ๋อยเริ่มเหนื่อยกันแล้ว ก็เลยต้องค่อย ๆ เดินและหยุดพักเป็นระยะ ๆ เดี๋ยวเราต้องเดินขึ้นไปชมพระตำหนักที่อยู่ไกลไปอีกประมาณ 1 กิโลเมตร น้องพิงค์เอาใจช่วยนะค๊า ยายอุ๊ด สู้ สู้...
โปรดติดตามตอนต่อไป